ประเภทของแอร์
| |||
|
เครื่องปรับอากาศแอร์มิตซูบิชิ|แอร์บ้านเครื่องปรับอากาศ|แอร์ราคาเครื่องปรับอากาศแอร์mitsubishi|เช็คราคาเครื่องปรับอากาศแอร์|เปรียบเทียบราคาเครื่องปรับอากาศแอร์|แอร์เครื่องปรับอากาศmitsubishi electric|เครื่องปรับอากาศเซ็นทรัลแอร์|แอร์เครื่องปรับอากาศ
บทความที่ได้รับความนิยม
-
สาระน่ารู้สำหรับเครื่องปรับอากาศ 1. ประเภทของเครื่องปรับอากาศ 2. การเลือกเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสมกับพื้นที่ 3. ค่าใช้จ่ายพลังงานในการ...
-
การคำนวณค่าไฟฟ้า คำนวณแอร์ เบอร์ 5 ที่ EER :10.6 คำนวณที่ คำนวณแอ ร์ EER :14.98 ...
-
วิธีการบำรุงรักษา เครื่องปรับอากาศ การบำรุงรักษาที่ถูก ต้องและสม่ำเสมอ ทำให้เครื่องปรับอากศมีอายุใช้งานได้ยาว นาน มีประสิท...
-
วิธีการใช้เครื่องปรับอากาศ เพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้า.. 1. ปรับตั้งอุณหภูมิของห้องให้เหมาะสม ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น และห้องอาหาร อาจตั้งอุณ...
-
เครื่องปรับอากาศระบบ Inverter เทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดไฟได้จริงหรือ? ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้...
วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ประเภทของแอร์ เครื่องปรับอากาศ
สาระน่ารู้สำหรับเครื่องปรับอากาศ
หลักการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ
เครื่องปรับอากาศ | ||||
1 ควรเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่มีสลากประหยัดไฟ โดยเป็นสติกเกอร์ติดอยู่ที่เครื่องปรับอากาศ ซึ่งสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เป็นผู้ตรวจสอบและรับรองคุณภาพ โดยกำหนดเป็นตัวเลขดังนี้ | ||||
เลข 5 ดีมาก | หมายถึง | ประสิทธิภาพสูงสุด | ||
เลฃ 4 ดี | หมายถึง | ประสิทธิภาพสูง | ||
เลข 3 ปานกลาง | หมายถึง | ประสิทธิภาพปานกลาง | ||
เลข 2 พอใช้ | หมายถึง | ประสิทธิภาพพอใช้ | ||
เลข 1 ต่ำ | หมายถึง | ประสิทธิภาพต่ำ | ||
2 ควรเลือกขนาดของเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับห้องที่ต้องการติดตั้ง โดยที่ความสูงของห้องไม่เกิน 3 เมตร ควรเลือกขนาดตามตารางต่อไปนี้ |
พื้นที่ห้องตามความสูงไม่เกิน 3 ม. (ตร.ม.) | ขนาดของเครื่องปรับอากาศ (บีทียู/ชั่วโมง) |
13 - 14 | 7,000 - 9,000 |
16 - 17 | 9,000 - 12,000 |
20 | 11,000 - 13,000 |
23 - 24 | 13,000 - 16,000 |
30 | 18,000 - 20,000 |
40 | 24,000 |
3. ชนิดของเครื่องปรับอากาศที่นิยมใช้ในบ้านอยู่อาศัย ในปัจจุบันมีจำหน่ายในท้องตลาด 3 ชนิด คือ 3.1ชนิดติดหน้าต่าง จะเหมาะสมกับห้องที่มีลักษณะที่ติดตั้งวงกบหน้าต่าง ติดกระจกช่องแสงติดตาย บานกระทุ้ง บานเกล็ด เป็นต้น มีขนาดตั้งแต่ 9,000 – 24,000 บีทียู/ชม. มีค่าประสิทธิภาพ (EER=บีทียูต่อชั่วโมง/วัตต์) ตั้งแต่ 7.5 – 10 บีทียู/ชม./วัตต์ 3.2 ชนิดแยกส่วนติดฝาผนังหรือแขวน เหมาะสมกับห้องที่มีลักษณะทึบจะติดตั้งได้สวยงาม แต่จะมีราคแพงกว่าเมื่อเปรียบเทียบเครื่องปรับอากาศชนิดต่าง ๆ ที่มีขนาดเท่ากัน (บีทียู/ชม.) เครื่องปรับอากาศชนิดนี้ส่วนใหญ่จะมีประสิทธิภาพสูงกว่า และจะมีสวิตซ์ควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบอิเลกคทรอนิกส์สำหรับควบคุมอุณหภูมิความเย็นของห้อง มีขนาดตั้งแต่ 8,000 – 24,000 บีทียู/ชม. ค่า EER ตั้งแต่ 7.5 – 13 บีทียู/ชม./วัตต์ 3.3 เครื่องปรับอากาศชนิดแยกส่วนตั้งพื้น จะเหมาะสมกับห้องที่มีลักษณะห้องที่เป็นกระจกทั้งหมด ผนังทึบซึ่งไม่อาจเจาะ ช่องเพื่อติดตั้งได้ เมื่อเปรียบเทียบเครื่องปรับอากาศชนิดต่าง ๆ ที่มีขนาดเท่ากัน เครื่องปรับอากาศชนิดนี้ส่วนใหญ่จะมีประสิทธิภาพต่ำกว่า มีขนาดตั้งแต่ 12,000 – 36,000 บีทียู/ชม. มีค่า EER ตั้งแต่ 6 – 11 บีทียู/ชม./วัตต์ |
วิธีใช้เครื่องปรับอากาศให้ประหยัดพลังงาน |
1.ติดตั้งในที่เหมาะสม คือต้องสูงจากพื้นพอสมควร สามารถเปิด-ปิดปุ่มต่าง ๆ ได้สะดวก และเพื่อให้ความเย็นเป่าออกจากเครื่องได้หมุนเวียนภายในห้องอย่างทั่วถึง 2.อย่าให้ความเย็นรั่วไหล ควรจะปิดประตูหรือหน้าต่างห้องให้มิดชิด 3.ปรับปุ่มต่าง ๆ ให้เหมาะสมเมื่อเริ่มเปิดเครื่องควรตั้งความเร็วพัดลมไปที่ตำแหน่งสูงสุด เมื่อความเย็นพอเหมาะแล้วให้ตั้งไปที่อุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส 4.หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ อุปกรณ์ในระบบปรับอากาศ และตะแกรง รวมทั้งชุดคอมเดนเซอร ์เพื่อให้อากาศผ่านเข้าออกได้สะดวกจะประหยัดไฟโดยตรง 5.ใช้พัดลมระบายอากาศเท่าที่จำเป็น 6.ควรปิดเครื่องปรับอากาศเมื่อไม่มีความจำเป็นต้องใช้ 7.ในฤดูหนาวขณะที่อากาศไม่ร้อนมากเกินไป ไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศ 8.หมั่นตรวจสอบ ล้าง ทำความสะอาดตามระยะเวลาที่ผู้ผลิตกำหนด 9.หน้าต่างหรือบานกระจกควรป้องกันรังสีความร้อนที่จะเข้ามาดังนี้ - ใช้อุปกรณ์บังแดดภายนอกมิให้กระจกถูกแสงแดด เช่น ผ้าใบ หรือแผงบังแดด หรือร่มเงาจากต้นไม้ - ใช้กระจกหรือติดฟิล์มที่สะท้อนรังสีความร้อน - ใช้อุปกรณ์บังแดดภายใน เช่น ผ้าม่าน มู่ลี่ (กระจกด้านทิศใต้ให้ใช้ใบอยู่ในแนวนอน กระจกทิศตะวันออก-ตกให้ใช้ใบที่อยู่ในแนวดิ่ง) 10.ผนังหรือเพดานโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านที่มีแสงแดดส่องจะเก็บความร้อนไว้มาก ทำให้มีการสูญเสียพลังงานมาก จึงควรป้องกันดังนี้ - บุด้วยฉนวนกันความร้อนหรือแผ่นฟิล์มอะลูมิเนียมสะท้อนรังสีความร้อน - ทำที่บังแดด/หลังคา/ปลูกต้นไม้ด้านนอก 11.พยายามอย่าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ไฟส่องสว่างก็เป็นตัวให้ความร้อน จึงควรปิดไฟเมื่อไม่มีความจำเป็น 12.ชุดคอนเดนเซอร์ที่ใช้ระบายความร้อนสู่ภายนอก - ควรถูกแสงแดดให้น้อยที่สุด - ขจัดสิ่งกีดขวางทางลมให้ระบายอากาศได้สะดวก - อย่าติดตั้งให้ปะทะกับลมธรรมชาติโดยตรง |
คำแนะนำด้านความปลอดภัยของเครื่องปรับอากาศ |
1.ควรต่อระบบสายดินกับเครื่องปรับอากาศและทดสอบไฟรั่วด้วยไขควงลองไฟ 2.เครื่องตัดไฟรั่วขนาดไม่เกิน 30 mA. หากป้องกันวงจรของเครื่องปรับอากาศด้วย อาจมีปัญหาเครื่องตัดไฟรั่วทำงานบ่อยขึ้น ควรหลีกเลี่ยงโดยการแยกวงจรออก และใช้ขนาด 100 mA. ป้องกันอีกชั้นหนึ่ง 3.ติดตั้งเบรกเกอร์หรือสวิตซ์อัตโนมัติและควบคุมวงจรโดยเฉพาะ 4.กรณีมีไฟตกหรือไฟดับ ถ้าไม่มีสวิตซ์ปลดสับเองโดยอัตโนมัติต้องรีบปิดเครื่องทันทีก่อนที่จะมีไฟมา และควรรอระยะเวลาประมาณ 3-5 นาที ก่อนที่จะสับสวิตซ์เข้าใหม่ 5.หมั่นตรวจสอบขั้วและการเข้าสายของจุดต่อต่าง ๆ อยู่เสมอ 6.ดูข้อควรปฏิบัติในการใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย http://www.mea.or.th/apd/5/main.htm |
เครื่องปรับอากาศระบบ Inverter เทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดไฟได้จริงหรือ?
เครื่องปรับอากาศระบบ Inverter เทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดไฟได้จริงหรือ? ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด ทั้งในเรื่องความเย็น ความทนทาน รวมถึงการประหยัดพลังงาน ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ถือว่าเป็นเทคโนโลยีล่าสุด ของเครื่องปรับอากาศใช้ภายในบ้าน และออฟฟิศที่สามารถช่วยประหยัดพลังงานมากกว่าเครื่องปรับอากาศที่ได้ประหยัด ไฟเบอร์ 5 ไปอีกขั้น |
ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) คือ เทคโนโลยีล่าสุดของระบบปรับอากาศ ซึ่งจะทำงานจ่ายแปลงกระแสไฟฟ้าในเครื่องปรับ อากาศ ช่วยควบคุมความเร็วรอบ ควบคุมกำลังไฟฟ้า และมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ (Motor Compressor) ปรับเปลี่ยนการทำงานของกระแสไฟฟ้า อุปกรณ์ และคอมเพรสเซอร์ (Compressor) ให้เหมาะสมกับอุณหภูมิที่ได้ตั้งไว้ภายในห้องล่วงหน้าตลอดเวลา ช่วยประหยัดพลังงานได้ดีกว่า คอมเพรสเซอร์ชนิดโรตารี่ (Rotary Compressor) แบบทั่วไปคือ ติด-ดับ (การควบคุมความเย็นเครื่องปรับอากาศในปัจจุบันจะใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า เทอร์โมสตัท (Thermo Stat) ในการควบคุมอุณหภูมิและกำหนดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ (Compressor) ตามอุณหภูมิที่ได้กำหนดค่าจากผู้ใช้ไว้ เมื่ออุณหภูมิได้ถึงจุดที่ตั้งไว้ เครื่องจะตัดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ (Compressor) ซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนัก ใช้กระแสไฟฟ้ามาก และใช้พลังงานสูงในการทำอุณหภูมิให้ได้ตามที่ตั้งไว้) |
นอก จากนี้ ระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ยังช่วยทำให้ผู้อยู่ในห้องปรับอากาศได้รับความสะดวกสบาย ช่วยควบคุมอุณหภูมิให้คงที่และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพจึงทำให้การทำ งานของเครื่องปรับอากาศแบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ถึงอุณหภูมิที่ต้องการได้รวดเร็ว เพราะออกแบบมาให้ปรับการทำงานและออกแบบให้คอมเพรสเซอร์ (Compressor) ทำงาน อย่างต่อเนื่อง รักษาความสะดวกสบายทำให้สามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 30% เมื่อเทียบกับเครื่องปรับอากาศทั่วไป เทคโนโลยีแบบอินเวอร์เตอร์ (inverter) นี้ช่วยประหยัดมากกว่าและยังมีประสิทธิภาพในการใช้งานและทำงานเงียบกว่า เครื่องปรับอากาศทั่วไป อุณหภูมิที่คงที่ และการทำงานที่เงียบ มีเสถียรภาพ ช่วยให้เข้าถึง อุณหภูมิ ที่ต้องการรวดเร็วกว่าเครื่องปรับอากาศธรรมดา เครื่องปรับอากาศแบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter) มีการออกแบบให้เครื่องหน่วยภายนอก (Condensing Unit) ทำงานรวดเร็วเหมาะสม จึงช่วยให้การทำงานของหน่วยภายใน (Fancoil Unit) มี ประสิทธิภาพสูงกว่าถึง 30% ลดการใช้กระแสไฟฟ้าจากการใช้เทคโนโลยี และการทำงานของอุปกรณ์ที่ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพ ทำให้การตั้งอุณหภูมิและการทำงานที่เหมาะสม ประหยัดไฟได้มากกว่าเครื่องปรับอากาศทั่วไป ภายในช่วงการ ทำงานจากสูงสุดไปต่ำสุดนอกจากนั้นการทำงานของเครื่องปรับอากาศยังช่วยให้สอด คล้องกับการทำงาน โดยมีปัจจัยจากอุณหภูมิห้องและจำนวนคนภายในห้องปรับอากาศโดยการออกแบบและ เพิ่มประสิทธิภาพของคอมเพรสเซอร์(Compressor) โดยการรักษาประสิทธิภาพช่วงความเร็วต่ำถึงความเร็วสูง และการออกแบบพิเศษ ให้การทำงานของมอเตอร์แบบ DC ตรงกับ การทำงานที่เป็นส่วนของการโหลด (Load) คือการเปิด-ปิด ของเครื่องปรับอากาศ |
http://www.bkairsupply.com/ |
ป้ายกำกับ:
เครื่องปรับอากาศ,
ราคาแอร์,
แอร์,
แอร์บ้าน
วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554
การคำนวณค่าไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ แอร์
การคำนวณค่าไฟฟ้า
คำนวณแอร์ เบอร์ 5 ที่ EER :10.6 | คำนวณที่ | |||||
คำนวณแอร์ EER :14.98 | 1 เดือนมี 30 วัน | |||||
ตารางคำนวณ | No.4 | No.5 EER 10.60 | INVERTER EER 14.98 | No.4 | No.5 EER 10.60 | INVERTER EER 14.98 |
ชั่วโมงที่ใช้ | 8 | 12 | ||||
BTU. | ค่าไฟฟ้า | |||||
9000 | 569 | 516 | 365 | 854 | 773 | 547 |
10000 | 633 | 573 | 405 | 949 | 859 | 608 |
12000 | 759 | 687 | 486 | 1139 | 1031 | 730 |
16000 | 1012 | 917 | 649 | 1518 | 1375 | 973 |
18000 | 1139 | 1031 | 730 | 1708 | 1547 | 1094 |
20000 | 1265 | 1146 | 811 | 1898 | 1718 | 1216 |
22000 | 1392 | 1260 | 892 | 2087 | 1890 | 1338 |
25000 | 1581 | 1432 | 1013 | 2372 | 2148 | 1520 |
28000 | 1771 | 1604 | 1135 | 2657 | 2406 | 1702 |
30000 | 1898 | 1718 | 1216 | 2846 | 2578 | 1824 |
33000 | 2087 | 1890 | 1338 | 3131 | 2836 | 2006 |
35000 | 2214 | 2005 | 1419 | 3321 | 3007 | 2128 |
38000 | 2404 | 2177 | 1540 | 3605 | 3265 | 2310 |
44000 | 2783 | 2520 | 1783 | 4175 | 3781 | 2675 |
56000 | 3542 | 3208 | 2270 | 5313 | 4812 | 3405 |
60000 | 3795 | 3437 | 2432 | 5693 | 5155 | 3648 |
63000 | 3985 | 3609 | 2554 | 5977 | 5413 | 3830 |
หมายเหตุ | ||||||
กรณีหน้าร้อนหรือห้องเก็บความเย็นไม่สนิท แอร์ต้องทำงานหนัก ค่าไฟอาจเพิ่มสูงขึ้น | ||||||
กรณีแอร์สกปรกการระบายอากาศไม่ดี กระแส amps สูงขึ้น ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น | ||||||
กรณีแอร์ผ่านการใช้งานมานาน อุปกรณ์อะไหล่บางชิ้นส่วน หมดอายุ สึกหรอ ค่าไฟอาจสูงขึ้น | ||||||
กรณีคำนวนห้องไม่ได้ขนาดหรือท่อน้ำยายาวเกินทำให้แอร์ทำงานหนักอายุการใช้งานสั้นลง | ||||||
ค่าไฟอาจสูงขึ้น | ||||||
กรณีไฟฟ้าไม่ครบ 220 โวลล์ แอร์จะกินไฟสูงกว่าปกติ หรือ โวลล์สูง แอมป์ต่ำ | ||||||
สนับสนุนข้อมูล บ.แพนสยามเอ็นจิเนียริ่งจำกัด เครื่องปรับอากาศ " เซ็นทรัลแอร์ " |
http://www.topcoolair.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=322059&Ntype=6
ป้ายกำกับ:
เครื่องปรับอากาศ,
ราคาแอร์,
แอร์,
แอร์บ้าน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)